ทรงชัย รัตนสุบรรณ เป็นบุตรของ นายสุบรรณ และนางบุญรัตน์ รัตนสุบรรณ โดยทรงชัยมีพี่สาวหนึ่งคนและพี่ชายหนึ่งคนซึ่งได้แก่ เพ็ญศรี (รัตนสุบรรณ) พูลสุวรรณ และศักดา รัตนสุบรรณ เมื่อครั้งที่อยู่ทางแถบทะเลตะวันออกเขากับพี่ชายได้เข้าชกมวยไทยโดยพี่ชายของเขาใช้ชื่อ ศักดา ฤทธิชัย เข้าแข่งโดยเคยชกกับนักมวยเอกอย่างเชิดศักดิ์ ลูกบางคล้า ในขณะที่ทรงชัยใช้ชื่อ ทรงชัย ชัยสุริยะ ขึ้นชก ที่ซึ่งเขาเคยเข้าแข่งขัน ณ สนามมวยเวทีลุมพินี เมื่อครั้งที่เคยถูกรุ่งชัย พงษ์สิงห์ เตะจนเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ก็ได้แขวนนวม โดยทำสถิติชก 22 ครั้ง แม้จะไม่เป็นฝ่ายแพ้คะแนน หากแต่เขากลับเป็นฝ่ายแพ้น็อกเป็นส่วนใหญ่
พ.ศ. 2508 ขณะที่เขามีอายุได้ 19 ปี ก็ได้เริ่มทดลองจัดรายการมวยที่เวทีโสธร แปดริ้ว ด้วยทุนจากทางครอบครัว และจัดให้นักมวยสองพี่น้องอย่าง ศิริมงคล ลูกศิริพัฒน์ ผู้พี่ กับสิงห์ห้าว ส.ลูกพิทักษ์ ผู้น้อง ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนเดียวกับเขาเข้าแข่งขันในรายการประจำเดือน ที่งานหลวงพ่อโสธร ซึ่งมีผู้เข้าชมอย่างเนืองแน่นทุกนัด เมื่อจัดได้ 4 ปี ชื่อเสียงของทรงชัยก็เริ่มเป็นที่รู้จัก
ช่วงประมาณ พ.ศ. 2517 – พ.ศ. 2518 ทรงชัยได้รับโอกาสทดลองงานด้วยการจัดรายการมวยที่สนามมวยเวทีลุมพินี เป็นระยะเวลาราว 6 ถึง 7 เดือน จนเกือบจะได้รับการบรรจุ แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์ในรายการสุดท้าย คือการไล่มวยลง 2 คู่ ทรงชัยได้ขึ้นไปยังล็อกชั้น 2 และ 3 และพนมมือให้ผู้ชมพร้อมกล่าวแสดงความรับผิดในขณะที่น้ำตาไหล ครั้นแล้ว เขาก็สามารถสร้างประทับใจในการจัดรายการมวยครั้งต่อมา จนได้รับการบรรจุให้เป็นโปรโมเตอร์อย่างเต็มตัว
พ.ศ. 2518 ได้รับแต่งตั้งให้เป็นโปรโมเตอร์ครั้งแรก ที่สนามมวยสนามมวยเวทีลุมพินี ในวันที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2540 เป็นนายสนามมวยมาตรฐานแห่งใหม่ โดยสร้างสนามมวยขึ้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยใช้ชื่อว่า สนามมวยนานาชาติ (ประเทศไทย) โดยมีพล อ.เชษฐา ฐานะจาโร ผู้บัญชากาทหารบก/นายกสมาคมมวยสากลสมัครเล่นแห่งประเทศไทยเป็นประธานในพิธีเปิด
19 ธันวาคม พ.ศ. 2543 ได้ลาออกจากการเป็นโปรโมเตอร์ของสนามมวยสนามมวยเวทีลุมพินีและได้ทำการจัดแข่งขันที่สนามมวยเวทีลุมพินีเป็นครั้งสุดท้าย และวันที่ 31 ธันวาคม ของปีเดียวกันนี้ ก็ได้ย้ายการจัดการแข่งขันชกมวยจากสนามมวยนานาชาติ ไปแข่งขันที่สนามมวยชั่วคราวห้องคอนเวนชั่น ฮอลล์ ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ งามวงศ์วาน
7 มกราคม พ.ศ. 2544 เริ่มจัดการแข่งขันที่สนามมวยชั่วคราวห้องคอนเวนชั่นฮอลล์ ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ งามวงศ์วาน/ท่าพระ รวมถึงในวันที่ 25 มกราคม ของปีเดียวกันนี้ก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นโปรโมเตอร์คนที่ 13 ของสนามมวยเวทีราชดำเนิน ประเดิมนัดแรกในรายการ “ศึกมหาชนวันทรงชัย”
การดำเนินงานธุรกิจ
นายทรงชัยเริ่มก่อตั้งบริษัท ทรงชัย บ๊อกซิ่ง โปรโมชั่น จำกัดในวันที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2531 เป็นบริษัทแรกเพื่อ ที่จะดำเนินธุรกิจทางด้านการจัดแข่งขันมวย
- บริษัทที่ 2 ในวันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2533 ใช้ชื่อว่า บริษัทมวยไทย โปรโมชั่น จำกัด เพื่อรองรับการขยาย งานที่มากขึ้นธุรกิจของคุณทรงชัยก็ได้มีการเจริญก้าวมาอย่างต่อเนื่องจึงขยายธุรกิจโดยเปิดบริษัทเพิ่มอีก 4 บริษัทในเวลาต่อมา ดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับวงการมวย อาทิเช่น การจัดการแข่งขันชกมวยไทย มวยสากล ผลิตและจัดจำหน่าย วีซีดี ดีวีดี การแข่งขันชกมวย ฯลฯ ดังนี้บริษัท เอสเอสอาร์ โปรโมชั่น จำกัด ในวันที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2537
- บริษัท ทรงชัย อินเตอร์เนชั่นแนล โปรโมชั่น จำกัด ในวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2539
- บริษัท เอส.เอส.บ๊อกซิ่ง โปรดักชั่น จำกัด ในวันที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2540
- บริษัท วันทรงชัย จำกัด ในวันที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2544 เป็นลำดับสุดท้ายโดยทุกบริษัทที่กล่าวมานายทรงชัยได้ก่อตั้งและดำเนินงานทางด้านธุรกิจนประสบความสำเร็จ แล้วจึงมอบหมายงานให้ บุตรและธิดา เข้ามาช่วยบริหารงานต่อจากนายทรงชัย และประสบความสำเร้จสืบต่อมาจนถึงปัจจุบัน
- โปรโมเตอร์เวทีมวยราชดำเนิน
- ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
- ประธานฝ่ายกีฬามวย มูลนิธิ ๕ ธันวามหาราช ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2540 ถึงปัจจุบัน
- โปรโมเตอร์เกียรตินิยมสมาคมมวยโลก (WBA)
ผลงาน
ผลงานโดดเด่นที่เจ้าตัวภูมิใจคือการเปิดตลาดมวยไทยในต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทวีปยุโรปที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส และจัดการถ่ายทอดสดมายังประเทศไทยในคืนวันส่งท้ายปีเก่า 31 ธันวาคม พ.ศ. 2532 ต่อจากนั้นมีการถ่ายทอดสดมวยไทยจากต่างประเทศมาจนถึงปัจจุบันเรื่อยมา นับได้ว่าเป็นผลงานประวัติศาสตร์ ครั้งแรกของ ” ศิลปะมวยไทย ” ที่ไปเผยแพร่นอกบ้านได้อย่างสมบูรณ์
- ผู้จัดมวยไทยที่ได้รับการยอมรับเป็นโปรโมเตอร์เบอร์ 1 มากกว่า 15 ปี
- เปลี่ยนรายการมวยทีวี โดยนำนักชกเงินแสน และรายการมวยเงินล้าน ถ่ายทอดสู่ผู้ชมทางบ้าน
- นำ ศิลปะมวยไทย ไปเผยแพร่ทั่วทุกทวีปของโลก และถ่ายทอดสดกลับสู่
ประเทศไทย และเป็นทูตมวยไทยไปเผยแพร่ศิลปะมวยไทย ซึ่งได้รับการยอม
รับทั่วโลก - เป็น ผู้สร้างมวยสากล ให้ประสบความสำเร็จสูงสุด และได้รับการยอมรับเป็น
โปรโมเตอร์เกียรตินิยมของโลกซึ่งมีสมาชิก 147 ประเทศทั่วโลก และสมาคม WBA มอบรางวัลให้ในฐานะมีแชมป์โลกพร้อมกันในปี พ.ศ. 2538 คือ
- แสน ส.เพลินจิต
- หยกไทย ศิษย์ อ.
- พิชิต ช.ศิริวัฒน์
- ดาว รุ่ง ช.ศิริวัฒน์ และสร้างแชมป์โลกทั้งหมดรวม 9 คน ได้แก่สามารถ พยัคฆ์อรุณ, เมืองชัย กิตติเกษม, พิชิต ศิษย์บางพระจันทร์,ยอดสนั่น ส.นันทชัย, ยอดดำรงค์ สิงห์วังชา